รูปร่างของเฮลิคอปเตอร์แบบ UH-1 คุ้นเคยกับเด็กๆไทยในชนบท อย่างสนิทสนม เสียงใบพัดตัดอากาศของมันเรียกร้องให้เด็กๆเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เด็กเหล่านั้นไม่ทราบว่ามันบินมาจากไหน แต่เมื่อมันร่อนลงจอด บนสนามหญ้าหน้าโรงเรียน มันเสมือนเป็นแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูดทำให้เด็กไทย ต้องแย่งกรูกันเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด โดยที่ฝุ่นยังไม่ทันจาง มันได้สร้างความฝันให้แก่เด็กไทย ไม่น้อยไปกว่าเครื่องบินไอพ่นของคนเมือง แต่อย่างใด
เมื่อได้ย้อนรอย กลับไปดูประวัติการรบของเฮลิคอปเตอร์ UH-1 ลำนี้แล้ว นักรบทุกคน ต่างยกย่องมัน ด้วยความสดุดี มันเป็นยุทโธปกรณ์สำคัญในสงครามเวียดนาม การปะทะในแนวหน้า ไม่เพียงแต่กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบิน C-130 เข้าร่วมแล้ว เฮลิคอปเตอร์แบบ UH-1 คือ ตัวแทนกองทัพบกสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมรบกันอยู่ อย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ และจากนั้นต่อมาสงครามการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย เฮลิคอปเตอร์ UH-1 ซึ่งกองทัพไทยได้รับมาจากผลพวงของสงครามเวียดนาม ถูกใช้เป็นอากาศยานหลักของกองทัพบกไทย ในการปฏิบัติการต่างๆ ทั้งในทางลับ ทางลึก และการเคลื่อนพลขนาดใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ UH-1 มันได้เคยนำทหารไทยเข้าสู่สนามรบ พร้อมกับนำร่างทหารที่บาดเจ็บออกมารักษาตัว ห้องนักบินและพื้นระวางบรรทุกของ UH-1 เคยนองไปด้วยเลือดของเพื่อนทหารที่อุทิศชีวิตเพื่อชาติ เคยนำร่างไร้วิญญาณของทหารกลับไปสู่อ้อมอกแม่ ว่างเว้นจากการศึกสงครามมันได้นำนักกระโดดร่มขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อสร้างสีสันในงานวันเด็ก แล้ววนลงกลับมาจอดให้เด็กไทยได้สัมผัส กระทั่งในยามที่พี่น้องคนไทยประสบภัยพิบัติ UH-1 ยังเคยได้นำความช่วยเหลือไปส่งให้ อย่างมิได้ขาด เฮลิคอปเตอร์ UH-1 ถูกนำเข้าประจำการในกองทัพต่างๆเป็นจำนวนมาก ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน มีการปรับปรุงและพัฒนาต่อมาหลายรุ่น เฮลิคอปเตอร์ UH-1 รุ่นแรกคือ ยุทโธปกรณ์ของทหารในแนวหน้า อย่างแท้จริง แต่เฮลิคอปเตอร์รุ่นหลัง กลับแตกต่างออกไป จุดหักเหของเฮลิคอปเตอร์รุ่นหลัง ในกองทัพไทย เริ่มจากการโรยลาลงไปของภารกิจทางยุทธวิธี ซึ่งเคยเป็นหน้าที่หลัก เปลี่ยนไปเป็นม้าใช้เพื่อการเดินทางของบุคคลสำคัญ ทั้งในและนอกกองทัพ จิตวิญญาณของทหารได้เปลี่ยนไป บทบาทของ UH-1 จึงได้ถูกหักเปลี่ยนตามไปด้วย พื้นระวางบรรทุกของ UH-1 รุ่นหลังถูกปูด้วยพรมสะอาด จึงไม่อาจอนุญาตให้เด็กไทย เข้าไปดูได้ใกล้เหมือนเช่นเคยตำนานเฮลิคอปเตอร์UH-1 ตำนานของเฮลิคอปเตอร์UH-1 ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทเบลล์ (Bell) แห่งสหรัฐอเมริกา ย้อนหลังไปในปีค.ศ1950 ช่วงสงครามเกาหลี บทบาทของเฮลิคอปเตอร์ยังไม่มากนัก เพราะข้อจำกัดทางด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ลูกสูบ มันจึงทำหน้าที่เพียงส่งกำลังบำรุงในระยะใกล้ และนำทหารบาดเจ็บออกจากพื้นที่การรบ เมื่อเครื่องยนต์ไอพ่นได้ถูกพัฒนาขึ้น มีสมรรถนะสูงขึ้น บริษัทเบลล์ จึงได้นำไปติดตั้งในเครื่องต้นแบบของตนคือ XH-40 เพื่อทำหน้าที่แทนรถพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล ในปี 1955 กองทัพบกสหรัฐฯ ร้องขอให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ พัฒนาเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ เพื่อใช้ในภารกิจการส่งกลับทางอากาศสายการแพทย์ (aeromedical evacuation) โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ XH-40 ของเบลล์ในรุ่นตัวถัง Models 204 ใช้เครื่องยนต์ Lycoming T-53 ขนาด 850 แรงม้า เป็นผู้ได้รับเลือก มีใบพัดหลักสองกลีบ เป็นฮลิคอปเตอร์แบบแรกของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งใช้เครื่องยนต์ไอพ่น ขึ้นทดสอบบินครั้งแรกในเดือนตุลาคม 1956 พัฒนาต่อเนื่องจนเข้าสู่สายการผลิตในปี 1959 และถูกกำหนดรหัสในครั้งแรกให้เป็น HU-1 (Helicopter Utility ตามระเบียบของกองทัพบกสหรัฐ) แต่โดยทั่วไปมักคุ้นหูกันในนาม ฮิว-อี้(Huey) ซึ่งสำเนียงการออกเสียงภาษาอังกฤษพยัญชนะตัวเอช ตามด้วยเสียงสระอูของตัวยู และต่อด้วยเลขหนึ่ง(คล้ายตัวไอ) ทำให้ทหารอเมริกันอ่านออกเสียง HU-1 ด้วยความรวบรัดว่า ฮิว-อี้(Huey) ต่อมาในปี ค.ศ.1962 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดรหัสเรียกขานของอากาศยานทุกเหล่าในกองทัพ รหัสเรียกขานของฮิวอี้จึงเปลี่ยนมาเป็น UH-1(Utility Helicopter) พร้อมรหัสเรียกขานอย่างเป็นทางการว่า Iroquois เป็นชื่อของชนเผ่าอินเดียนแดง ทางตอนเหนือในทวีปอเมริกา ซึ่งเป็นชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหูนัก ส่วนในทางพาณิชย์-พลเรือนมันถูกเรียกว่า Bell 204/205 แต่โดยส่วนใหญ่ยังคงนึกถึงเกียรติประวัติของมันในนาม ฮิวอี้ UH-1 ประจำการอยู่ในทั้งสี่เหล่าทัพของสหรัฐฯ มาอย่างยาวนานกว่าสี่สิบปี ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลายเวอร์ชั่น และยังได้ถูกนำไปประจำการในกองทัพต่างๆ มากกว่าสี่สิบประเทศ ในภารกิจที่แตกต่างกัน อาทิ ภารกิจกู้ภัยช่วยเหลือในหุบเขา การลำเลียงทหาร การโจมตีเป้าหมายภาคพื้น และในสงครามปราบเรือดำน้ำ
รายละเอียดของ ฮ.ฮิวอี้ มีดังนี้ ลูกเรือ 4 นาย (นักบิน นักบินผู้ช่วย หัวหน้าลูกเรือ และพลปืน ความจุ ทหาร 6-8 นาย ความยาว 12.69 เมตร มี 2 ใบพัดเส้นผ่าศูนย์กลางใบพัด 14.6 เมตร ความสูง 4.4 เมตร น้ำหนักเปล่า 2,725.5 กก. น้ำหนักพร้อมบรรทุก 4,762.7 กก. น้ำหนักสูงสุดตอนนำเครื่องขึ้น 4,762.7 กก.ขุมกำลัง เครื่องยนต์เทอร์โบชาฟท์แพรทท์ แอนด์วิทนีย์ สองเครื่องยนต์ ให้แรงขับเครื่องละ 900 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 220 กม.ต่อ ชม. พิสัย 460 กม. เพดานบินทำการ 17,300 ฟุต อัตราการไต่ระดับ 1,755 ฟุตต่อนาที อาวุธ จรวดขนาด 2.75 นิ้ว ปืนกลจีเอยู 16.50 คาลิเบอร์ ปืนกลจีเอยู 17 ขนาด 7.62 มม.หรือปืนกลน้ำหนักเบาเอ็ม 240 ขนาด 7.62 มม.
UH - 60 Black Hawk เป็นสี่ bladed, คู่เครื่องยนต์กลางยก เฮลิคอปเตอร์ยูทิลิตี้ ที่ผลิตโดย เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ .แสดงความคิดเห็น Sikorsky S - 70 การออกแบบสำหรับ กองทัพสหรัฐอเมริกา 's ระบบสาธารณูปโภคยุทธวิธีเครื่องบินขนส่ง (UTTAS) การแข่งขันในปี 1972 กองทัพบกที่กำหนดต้นแบบเป็น Yuh - 60A และที่เลือกฮอว์กดำเป็นผู้ชนะของโปรแกรมในปี 1976 หลังจากที่ได้มีการแข่งขันบินปิดด้วย เครื่องบินโบอิ้ง Vertol Yuh - 61 .
UH - 60A เข้าประจำการกับกองทัพบกในปี 1979 เพื่อแทนที่ Bell UH - 1 Iroquois เป็นเฮลิคอปเตอร์ขนส่งทางยุทธวิธีของกองทัพบก นี้ตามด้วย Fielding ของสงครามอิเล็กทรอนิกส์และพันธุ์การดำเนินงานพิเศษของฮอว์กดำ ปรับปรุง UH - 60L และ UH - 60M พันธุ์ยูทิลิตี้ยังได้รับการพัฒนา รุ่นแก้ไขยังได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับกองทัพเรือสหรัฐและกองทัพอากาศสหรัฐฯ นอกเหนือจากการใช้กองทัพสหรัฐในครอบครัว UH - 60 ได้รับการส่งออกไปยังหลายประเทศเหยี่ยวดำได้ทำหน้าที่ในการต่อสู้ระหว่างความขัดแย้งในเกรนาดา, ปานามา, อิรัก, โซมาเลีย, บอลข่าน, อัฟกานิสถานและพื้นที่อื่น ๆ ในตะวันออกกลาง
ขุมกำลัง เครื่องยนต์เทอร์โบชาฟท์ของเจเนรัล อิเลกทริก กำลังขับเคลื่อนเครื่องละ 1,800 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 295 กม.ต่อ ชม. ความเร็วในการร่อน 278 กม.ต่อ ชม. รัศมีทำการรบ 592 กม. พิสัยในการเคลื่อนย้าย 2,220 กม. เพดานบนทำการ 19,000 ฟุต อัตราการไต่ระดับ 700 ฟุตต่อนาที อัตราน้ำหนักต่อแรงผลัก 0.192 แรงม้าต่อปอนด์ อาวุธปืนกลเอ็ม 240 เอชหรือเอ็ม 134 ขนาด 7.62 มม. 2 กระบอก
นอกจากประเทศไทยที่มี ฮ.แบล็กฮอว์คแล้ว ยังมีประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ซื้อจากสหรัฐอเมริกามาประจำกองทัพของประเทศตนเอง เช่น ออสเตรเลีย ออสเตรีย ตุรกี จีน เกาหลีใต้ ใต้หวัน ฟิลิปปินส์ บาห์เรน ซาอุดิอาระบีย จอร์แดน อิสราเอล อียิปต์ โมร็อกโก บราซิล โคลอมเบีย ชิลี เม็กชิโก เป็นต้น
Credit by teenee.com ,http://en.wikipedia.org/wiki/Sikorsky_UH-60_Black_Hawk,