วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

การจัดซื้อจัดจ้าง่ายนิดเดียว

สรุปสาระสำคัญ มีผลใช้บังคับ วันที่ 23 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป
พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
1. การบังคับใช้
ให้ยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุ ในกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศข้อบัญญัติ และข้อกําหนดใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ และให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจาอุเบกขาเป็นต้นไป (ประกาศ 24 กุมภาพันธ์ 2560)
2. นิยามศัพท์สำคัญ เช่น
“การจัดซื้อจัดจ้าง” หมายความว่า การดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุโดยการซื้อ จ้าง เช่า แลกเปลี่ยน หรือโดยนิติกรรมอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
“พัสดุ” หมายความว่า สินค้า งานบริการ งานก่อสร้าง งานจ้างที่ปรึกษาและงานจ้างออกแบบ หรือควบคุมงานก่อสร้าง รวมทั้งการดําเนินการอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
“การบริหารพัสดุ” หมายความว่า การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบํารุงรักษา และการจําหน่ายพัสดุ
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกํากับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกํากับของรัฐสภา หน่วยงานอิสระของรัฐ และหน่วยงานอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
“เจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ หรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายจากผู้มีอํานาจให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐ
3. หลักการการจัดซื้อจัดจ้าง
หลักการการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานของรัฐ และต้องสอดคล้องกับหลักการคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได้
4. ผู้มีอํานาจอนุมัติสั่งซื้อสั่งจ้าง
การจัดหาพัสดุโดยวิธีใดตามพระราชบัญญัตินี้จะเป็น ผู้ดํารงตําแหน่งใดและภายในวงเงินเท่าใด ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรี (รมต.การคลัง) กําหนด
5. คณะกรรมการและองค์กรดูแลการจัดซื้อจัดจ้าง
กำหนดให้มีคณะกรรมการและองค์กร ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน และกำหนดให้กรมบัญชีกลางเป็นองค์กรสนับสนุนดูแลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
6. วิธีการการจัดซื้อจัดจ้าง
การจัดซื้อจัดจ้างอาจกระทําได้โดยวิธี
1) วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการทั่วไปที่มี คุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกําหนดให้เข้ายื่นข้อเสนอ
2) วิธีคัดเลือก ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกําหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสามรายให้เข้ายื่นข้อเสนอเว้นแต่ในงานนั้น มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กําหนดน้อยกว่าสามราย
3) วิธีเฉพาะเจาะจง ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ ตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกําหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอหรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคา รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกับผู้ประกอบการโดยตรงในวงเงินเล็กน้อยตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ให้เลือกใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปก่อน เว้นแต่เข้าลักษณะของเงื่อนวิธีการคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง
รายละเอียดของวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุในหมวดนี้ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด
7. การดำเนินการจัดหาพัสดุ
โดยในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุแต่ละครั้ง ให้ผู้มีอํานาจแต่งตั้งผู้รับผิดชอบการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ซึ่งจะกระทําโดยคณะกรรมการการจัดซื้อจัดจ้างหรือเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งก็ได้ องค์ประกอบและองค์ประชุมซึ่งกระทําโดยคณะกรรมการ และหน้าที่ของผู้รับผิดชอบการจัดซื้อจัดจ้างตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด ค่าตอบแทนผู้รับผิดชอบการจัดซื้อจัดจ้างตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกําหนด
ในการบริหารสัญญาและการตรวจรับพัสดุ ให้ผู้มีอํานาจแต่งตั้งคณะกรรมการ ตรวจรับพัสดุเพื่อรับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุ องค์ประกอบ องค์ประชุม และหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด
ในกรณีที่การจัดซื้อจัดจ้างมีวงเงินเล็กน้อยตามที่กําหนดในกฎกระทรวง จะแต่งตั้งบุคคลหนึ่ง บุคคลใดเป็นผู้ตรวจรับพัสดุนั้น โดยให้ปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับคณะกรรมการตรวจรับพัสดุก็ได้ ผู้รับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุซึ่งไม่ใช่ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุให้ได้รับค่าตอบแทนตามที่กระทรวงการคลังกําหนด
8. การบริหารพัสดุ
ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการควบคุมและดูแลพัสดุที่อยู่ในความครอบครอง ให้มีการใช้และการบริหารพัสดุที่เหมาะสม คุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐมากที่สุด ซึ่งรวมถึงการเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบํารุงรักษา และการจําหน่ายพัสดุ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด
9. บทกําหนดโทษ
ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นผู้มีอํานาจหน้าที่ในการดําเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุโดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ผู้ใดเป็นผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนในการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง ผู้นั้นต้องระวางโทษตามที่กําหนดไว้สําหรับความผิดตามข้างต้น
10.บทเฉพาะกาล
ให้ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 และบรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ข้อบัญญัติและข้อกําหนดใด ๆ เกี่ยวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุ ของหน่วยงานของรัฐอื่น รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ในเรื่องนั้น ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
การดําเนินการออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ดําเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
โครงสร้าง พรบ. แบ่งออกเป็น 15 หมวด จำนวน 132 มาตรา
มาตรา 1–5 บทนิยาม
มาตรา 6–15 หมวด 1บททั่วไป
มาตรา 16-19 หมวด 2 การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้ประกอบการในการป้องกันการทุจริต
มาตรา 20-45 หมวด 3 คณะกรรมการ ส่วนที่ 1 คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
ส่วนที่ 2 คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
ส่วนที่ 3 คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ ส่วนที่ 4 คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต ส่วนที่ 5 คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน
มาตรา 46-50 หมวด 4 องค์กรสนับสนุนดูแลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐมาตรา 51-53 หมวด 5 การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ
มาตรา 54-68 หมวด 6 วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง
มาตรา 69-78 หมวด 7 วิธีการจ้างที่ปรึกษา
มาตรา 79-92 หมวด 8 วิธีการจ้างออกแบบและควบคุมงาน
มาตรา 93-105 หมวด 9 การทำสัญญา
มาตรา 100-105 หมวด 10 การบริหารสัญญาและการตรวจรับพัสดุ
มาตรา 106-108 หมวด 11การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ
มาตรา 109-111 หมวด 12การทิ้งงานและการเพิกถอนการเป็นผู้ทิ้งงาน
มาตรา 112-113 หมวด 13การบริหารพัสดุ
มาตรา 114-119 หมวด 14การอุทธรณ์
มาตรา 120-121 หมวด 15บทกำหนดโทษ
มาตรา122-132 บทเฉพาะกาล

โดยระเบียบพัสดุมี 10 หมวด 
1. ข้อความทั่วไป
2. การซื้อหรือการจ้าง
3. งานจ้างที่ปรึกษา
4. งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง
5. การทำสัญญาและหลักประกัน
6. การบริหารสัญญาและการตรวจรัยพัสดุ
7. การประเมินผลการปฏิบัติงานของผุ้ประกอบการ
8. การทิ้งงาน
9. การบริหารพัสดุ
10. การร้องเรียน 
โดยสามารรถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซด์กระทรวงการคลัง หรือ http://www.gprocurement.go.th/wps/portal/egp/Regulation/Ministry_of_Finance_Regularity/!ut/p/z1/jZDLDoJADEW_hi3tiDx0hxhAEwImKDgbAwYHEmAIjPL74mPji9hdm3PvSQoUYqB1cilYIgpeJ-Ww76l28IgzIZaFnhMuNDR12zZCRyPuUoPoDuCPMRHoP_kRgI7XR0BfFf7K1ocGFb1AneHUVT6AnXJTBJ7lb1xEizyBEckaKCt5-viHWaeKwYC22Slrs1Y-t8M5F6Lp5hJK2Pe9zDhnZSYfuSxyCb-Fct4JiN9ZaKptjEVQRUZnXgGLIggX/dz/d5/L2dBISEvZ0FBIS9nQSEh/

วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560

การ Google Tools ในการปฏิบัติงานในระกับสำนักงาน

Google Drive คืออะไร

          Google Drive เป็นบริการจาก Google ที่ทำให้เราสามารถนำไฟล์ต่าง ๆ ไปฝากไว้กับGoogle โดยวิธีการที่เรียกว่า Upload ซึ่งทำให้เราสามารถใช้ไฟล์เหล่านั้นที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต  ไม่เพียงแค่ฝากไฟล์ได้เท่านั้นคุณยังสามารถ สามารถแบ่งปันไฟล์กับคนที่ต้องการ และสามารถแก้ไขร่วมกันได้จากอุปกรณ์ทุกประเภท สำหรับพื้นที่ ๆ Googleให้เราใช้บริการฟรีนั้นอยู่ที่ 15 GB

Google Drive ประกอบด้วย
          ระบบเอกสาร สเปรดชีต งานนำเสนอ แบบฟอร์มและ ภาพประกอบ (Google Docs,Spread sheets,Presentation,Drawing&Form)
-  การสร้างเอกสาร สเปรตชีต และงานนำเสนอออนไลน์
- ประการแก้ไข
- เครืองมือการค้นหา
- ความปลอดภัยและข้อมูล
- ส่วนบุคคล เก็บไฟล์ได้อย่างปลอดภัย
- การผสานรวม
- เข้าถึงได้จากทุกที่
          การใช้งาน Google Drive นั้นเริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแค่คุณสมัคร Gmail   หากคุณยังไม่เคยสมัคร แนะนำให้สมัคร เนื่องจากสมัคร Gmail เพียง Account เดียว ทำให้สามารถใช้บริการต่าง ๆ ของGoogle ได้อย่างมากมาย รวมถึง Google Drive
ประโยชน์ Google Drive
          1.เข้าถึงไฟล์จากทีไดก็ได้ Google Drive บน Mac,คอมพิวเตอร์พีวีมแอนดรอยด์ หรืออุปกรร์ iOSจะทำให้คุณมีพื้นที่เดียวสำหรับไฟล์ฉบับปัจจุบันจากทุกที่
          2. พกไฟล์ไปใช้ชีวิตพร้อมกับคุณ แบ่งปันไฟล์เดียวหรือ ทั้งไฟลเดอร์กับบุคคลที่กำหนดหรือทีมงานทั้งหมดหรือกระทั้งพนักงานชั้วคราว พันธมิตร และผู้มีสิทธิ์ สร้างและตอบกับความคิดเห็นในไฟล์เพื่อรับข้อเสนอแนะและเพิ่มแนวคิดใหม่ๆ
          3. เก็บได้ทุกอย่างในราคาเพียงนิดเดียว เริมต้นด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด5กิกะไบต์ฟรีสำหรับผู้ใช้แต่ละรายถ้ายังไม่พอ เริ่มต้นที่$5/ผู้ใช้/เดือนสำหรับ100กิกะไบต์และทีมไอทีสามารถให้พื้นที่เก็บข้อมูลกับผู้ใช้ได้ถึง16 เทราไบต์ต่อคน
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.ninetechno.com/a/other-article/580-google-drive.html

Google Calendar 
          Google Calendar คือ บริการปฏิทินแบบออนไลน์ของ Google ซึ่งทำให้คุณสามารถเก็บข้อมูลเหตุการณ์ต่างๆ รวมไว้ในที่เดียวกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกำหนดการนัดหมายและกำหนดเวลาเหตุการณ์ต่างๆ สามารถส่งข้อความเชิญ สามารถใช้ปฏิทินร่วมกับเพื่อนร่วมงาน และ ค้นหาเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ซึ่ง Google Calendar มีข้อดีกว่าโปรแกรมที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ต่างๆดังนี้
          1. Google Calendar เป็นบริการออนไลน์และให้บริการฟรี ซึ่งต่างกับโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อโปรแกรมมาใช้
          2. โปรแกรมในคอมพิวเตอร์มีการแสดงกิจกรรมในรูปแบบได้น้อย ซึ่งต่างจาก Google Calendar ที่แสดงตารางกิจกรรมได้หลายรูปแบบมากกว่า
          3. Google Calendar มีการแจ้งเตือนผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโปรแกรมที่คล้ายกับ Google Calendar ไม่มีการแจ้งเตือนแบบนี้
          4. Google Calendar ใช้งานได้ง่ายและสะดวกกว่า จึงทำให้ผู้ที่เริ่มใช้งานเข้าใจได้ง่าย
          5. Google Calendar สามารถใช้ทุกที่ที่มีอินเตอร์เน็ตจึงทำให้สะดวกกว่าโปรแกรมที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ซึ่งถ้าคอมพิวเตอร์เครื่องไหนไม่มีโปรแกรมนั้นก็จะใช้ไม่ได้
ประโยชน์ของ Google Calendar
          1.  เป็นตัวช่วยในการจัดตารางเวลาให้กับเราได้อย่างสะดวกสบาย สามารถกำหนดกิจกรรมที่จะทำลงไปได้ทำให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน เปลี่ยนแปลงข้อมูล ใส่สีสันได้ตามใจเราเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นตัวของคุณ
          2. เหตุการณ์ในตาราง เราสามารถกำหนดให้แจ้งเตือนทางอีเมล์ได้ หรือไม่ต้องแจ้งก็ได้
          3. บริการนี้สามารถส่งข้อความเชิญที่เกี่ยวกับกิจกรรมของเราได้ทางอีเมล์ และยังกำหนดล่วงหน้าได้อีกด้วย
          4. ใช้ปฏิทินร่วมกันได้กับเพื่อนของเรา และยังกำหนดได้อีกว่าจะให้ใครใช้ได้หรือไม่ อีกทั้งแสดงได้อีกว่าเรากำลังอยู่ในสถานะใดคล้ายกับการใช้บริการของ MSN
          5. สามารถใช้บริการนี้ได้ทุกที่ที่มีอินเตอร์เน็ต ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน
          6. สามารถแจ้งเตือนกิจกรรมที่กำลังจะมาถึงได้ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้เรารู้ได้ล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว และไม่พลาดกิจกรรมหรือนัดหมายนั้นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://web.sut.ac.th/g/index.php/documentation/google-calendar

Google sites

          Google Site คือบริการที่ ต่อยอดมากจาก Google ที่ผู้ใช้สามารถสร้าง Page ของ Google ในแบบที่ตัวเองต้องการได้แต่ว่ามาคราวนี้ Google Site ได้ต่อยอดจากการที่ว่าสร้างไว้เพื่อดูเองกลายเป็น เครื่องมือในการสร้างเว็บไซด์ได้อย่างง่ายดายนึกถึง โปรแกรม Microsoft FrontPage หรือไม่ก็ MacroMedia Dreamweaver ที่เป็นโปรแกรมบนเครื่องของเรา นั้นแหละครับ แต่ Google Site ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายกว่า ลูกเล่นเยอะกว่าเพราะสามารถ Add Google Gadgets ได้ และที่สำคัญทำงานบนWeb Service
การสร้างเว็บไซด์บน Google Site นอกจากที่เราจะได้เว็บไซด์แล้ว Google ยังให้พื้นที่ในการเก็บเว็บไซด์ไว้บน Google ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีวันล่ม คิดดูครับมีทั้ง เว็บไซด์และโฮสติ้งในคราวเดียวกัน
Google ให้พื้นที่ในการเก็บ เว็บไซด์สำหรับ Free Account ไว้ที่ 100 MBและสำหรับ ลูกค้า Google Apps แบบ Google Apps Premier Edition จะได้รับ
       ·         10 GB of Google Sites storage, plus 500 MB for each Premier Edition user account
      ·         Manage Google Sites sharing settings across your business
      ·         Easily publish Google Sites within your company
·         ก่อนเริ่มใช้งานคุณจะต้องมี Google Account หรือ Gmail นั้นเอง อันเดียวกัน
·         แล้วเข้าไปที่ sites.Google.com จากนั้น Login
·         แล้วกด ปุ่มสีน้ำเงิน Create Site
เรายังสามารถนำ Google Sites ไปเชื่อมกับระบบโดเมนให้เป็นเว็บไซด์ของจริงได้ด้วยโดยGoogle Sitesจะให้เราสามารถเปลี่ยน CNAME  โดยชี้มาที่ ghs.google.com ได้ ในส่วนของ Web address

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

Basic Photoshop

 คุณสมบัติพื้นฐานของโปรแกรม
โปรแกรม Photo shop เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe ที่ใช้สำหรับตกแต่งภาพถ่ายและภาพกราฟฟิก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และงานด้านมัลติมีเดีย อีกทั้งยังสามารถ retouching ตกแต่งภาพและการสร้างภาพ ซึ่งกำลังเป็นที่มนิยมสูงมากในขณะนี้ เราสามารถใช้โปรแกรม Photoshop ในการตกแต่งภาพ การใส่ Effect ต่าง ๆให้กับภาพ และตัวหนังสือ การทำภาพขาวดำ การทำภาพถ่ายเป็นภาพเขียน การนำภาพมารวมกัน การ Retouch ตกแต่งภาพต่าง 
เราสามารถเรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรม Adobe Photoshop นี้ได้ด้วยตัวเอง  คุณสามารถที่จะทำการแก้ไขภาพ ตกแต่งภาพ ซ้อนภาพในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การใส่ข้อความประกอบลงในภาพด้วย  และเนื่องด้วย Adobe Photoshop มีการพัฒนาโปรแกรมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราจำเป็นต้องศึกษาคำสั่งต่างๆ ให้เข้าใจ แต่ที่สำคัญ เมื่อคุณเรียนรู้การใช้คำสั่งในเวอร์ชั่นเก่า คุณก็ยังคงสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้ด้วยครับ

  ความสามารถพื้นฐานของ Adobe Photoshop ที่ควรทราบ 
·                     ตกแต่งหรือแก้ไขรูปภาพ
·                     ตัดต่อภาพบางส่วน หรือที่เรียกว่า crop ภาพ
·                     เปลี่ยนแปลงสีของภาพ จากสีหนึ่งเป็นอีกสีหนึ่งได้
·                     สามารถลากเส้น แบบฟรีสไตล์ หรือใส่รูปภาพ สี่เหลี่ยม วงกลม หรือสร้างภาพได้อย่างอิสระ
·                     มีการแบ่งชั้นของภาพเป็น Layer สามารถเคลื่อนย้ายภาพได้เป็นอิสระต่อกัน
·                     การทำ cloning ภาพ หรือการทำภาพซ้ำในรูปภาพเดียวกัน
·                     เพิ่มเติมข้อความ ใส่ effect ของข้อความได้
·                     Brush หรือแปรงทาสี ที่สามารถเลือกรูปแบบสำเร็จรูปในการสร้างภาพได้และอื่นๆ อีกมากมา
                 โปรแกรม Adobe Photoshop CS6 เมื่อทำการเปิดโปรแกรมแล้ว จะพบหน้าตาของโปรแกรม


มีส่วนสำคัญหลักที่ที่ต้องรู้ดังนี้
1. เมนูของโปรแกรม Application menu หรือ Menu bar ประกอบด้วย
     1. File หมายถึง รวมคำสั่งที่ใช้จัดการกับไฟล์รูปภาพ เช่น สร้างไฟล์ใหม่, เปิด, ปิด, บันทึกไฟล์, นำเข้าไฟล์, ส่งออกไฟล์ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับไฟล์
     2. Edit หมายถึง รวมคำสั่งที่ใช้สำหรับแก้ไขภาพ และปรับแต่งการทำงานของโปรแกรมเบื้องต้น เช่น ก๊อปปี้, วาง, ยกเลิกคำสั่ง, แก้ไขเครื่องมือ และอื่น ๆ
     3. Image หมายถึง รวมคำสั่งที่ใช้ปรับแต่งภาพ เช่น สี, แสง, ขนาดของภาพ (image size), ขนาดของเอกสาร (canvas), โหมดสีของภาพ, หมุนภาพ และอื่น ๆ
     4. Layer หมายถึง รวมคำสั่งที่ใช้จัดการกับเลเยอร์ ทั้งการสร้างเลเยอร์, แปลงเลเยอร์ และการจัดการกับเลเยอร์ในด้านต่าง ๆ
     5. select  รวม คำสั่งเกี่ยวกับการเลือกวัตถุหรือพื้นที่บนรูปภาพ (Selection) เพื่อนำไปใช้งานร่วมกับคำสั่งอื่น ๆ เช่น เลือกเพื่อเปลี่ยนสี, ลบ หรือใช้เอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ กับรูปภาพ
     6. Filter เป็นคำสั่งการเล่น Effects ต่างๆสำหรับรูปภาพและวัตถุ
     7. View เป็นคำสั่งเกี่ยวกับมุมมองของภาพและวัตถุในลักษณะต่างๆ เช่น การขยายภาพและย่อภาพให้ดูเล็ก
     8. Window  เป็นส่วนคำสั่งในการเลือกใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆที่จำเป็นในการใช้สร้าง Effects ต่างๆ
     9. Help เป็นคำสั่งเพื่อแนะนำเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมฯและจะมีลายละเอียดของโปรแกรมอยู่ในนั้น
2. เมนูของพื้นที่ทำงาน Panel menu
     Panel (พาเนล) เป็นวินโดว์ย่อย ๆ ที่ใช้เลือกรายละเอียด หรือคำสั่งควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของโปรแกรม ใน Photoshop มีพาเนลอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น พาเนล Color ใช้สำหรับเลือกสี, พาเนล Layers ใช้สำหรับจัดการกับเลเยอร์ และพาเนล Info ใช้แสดงค่าสีตรงตำแหน่งที่ชี้เมาส์ รวมถึงขนาด/ตำแหน่งของพื้นที่ที่เลือกไว้
3. พื้นที่ทำงาน Stage หรือ Panel เป็นพื้นที่ว่างสำหรับแสดงงานที่กำลังทำอยู่
4. เครื่องมือที่ใช้งาน Tools panel หรือ Tools box
Tool Panel (ทูลพาเนล) หรือ กล่องเครื่องมือ จะประกอบไปด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการวาด ตกแต่ง และแก้ไขภาพ เครื่องมือเหล่านี้มีจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีการรวมเครื่องมือที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กันไว้ในปุ่มเดียวกัน โดยจะมีลักษณะรูปสามเหลี่ยมอยู่บริเวณมุมด้านล่างดังภาพ 2 เพื่อบอกให้รู้ว่าในปุ่มนี้ยังมีเครื่องมืออื่นอยู่ด้วย

5. สิ่งที่ควบคุมเครื่องมือที่ใช้งาน Tools control menu หรือ Option bar
Option Bar (ออปชั่นบาร์) เป็นส่วนที่ใช้ปรับแต่งค่าการทำงานของเครื่องมือต่าง ๆ โดยรายละเอียดในออปชั่นบาร์จะเปลี่ยนไปตามเครื่องมือที่เราเลือกจากทูลบ็อกซ์ในขณะนั้น เช่น เมื่อเราเลือกเครื่องมือ Brush (พู่กัน) บนออปชั่นบาร์จะปรากฏออปชั่นที่ใช้ในการกำหนดขนาด และลักษณะหัวแปรง, โหมดในการระบายความโปร่งใสของสี และอัตราการไหลของสี เป็นต้น
เครื่องมือพื้นฐานของโปรแกรม Tools

Tool Panel (ทูลพาเนล) หรือ กล่องเครื่องมือ จะประกอบไปด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการวาด ตกแต่ง และแก้ไขภาพ เครื่องมือเหล่านี้มีจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีการรวมเครื่องมือที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กันไว้ในปุ่มเดียวกัน โดยจะมีลักษณะรูปสามเหลี่ยมอยู่บริเวณมุมด้านล่างดังภาพ 2 เพื่อบอกให้รู้ว่าในปุ่มนี้ยังมีเครื่องมืออื่นอยู่ด้วย
ความหมายและความสำคัญของเลเยอร์ Layer
        เลเยอร์ Layer ชิ้นงานย่อย หรือเรียกให้เข้าใจง่ายคือ ชั้นของชิ้นงานใหญ่ เป็นหลักการทำงานของโปรแกรม Photoshop นั่นคือการนำชั้นต่างๆ มาผสมกันเพื่อปรับแต่งให้เกิดความสวยงามมากขึ้น


สามารถทำอะไรกับเลเยอร์
แสดงหรือซ่อน (Show or Hide Layer) การคลิกที่รูปดวงตาแต่ละครั้ง จะเป็นการเปิดเพื่อแสดง หรือปิดเพื่อซ่อนสีิงที่อยู่ในเลเยอร์ เช่น ถ้าเราไม่ต้องการให้แสดงภาพของเลเยอร์ใด ก็ทำการปิด หรือซ่อนไปคัดลอก และ ทำซ้ำเลเยอร์ (Copy and Duplicate Layer)
ย้ายตำแหน่งเลเยอร์ (Move Layer)
ขั้นตอนการทำคล้ายกับการคัดลอก เพียงเปลี่ยนคำสั่งจาก Edit - Copy เป็น Edit Cut หรือ Ctrl X ในกรณีที่ย้ายคนละชิ้นงาน แต่ถ้าชิ้นงานเดียวกันเพียงคลิกที่เลเยอร์ และทำการเลื่อนไปยังตำแหน่งบน Panel ที่ต้องการเท่านัน
เพิ่มเลเยอร์ (Add Layer)
เพียงแค่คลิกไอคอน Create a new Layer ซึ่งอยู่ด้านล่างของ Layer Panel ติดกับรูปถัง ก็จะได้เลเยอร์เพิ่มแล้ว หรือถ้าต้องการใช้คำสั่งจากเมนูโปรแกรม เลือก Layer เลือก New เลือก Layer ตั้งชื่อ และ Enter ก็ได้เหมือนกัน 
งชื่อเลเยอร์ (Name Layer)
วิธีตั้งชื่อให้กับเลเยอร์ ทำโดยดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อบนเลเยอร์นั้น และพิมพ์ชื่อ เสร็จแล้ว Enter สำหรับ Photoshop CS6 เมื่อพิมพ์ชื่อเลเยอร์หนึ่งเสร็จแล้ว สามารถกด Tab เพื่อเลื่อนไปยังเลเยอร์อื่นเพื่อทำการพิมพ์ชื่อได้เลย ไม่ต้องมาทำซ้ำขั้นตอนเดิม ทำให้ประหยัดเวลาได้มาก
คลิปปิ้งเลเยอร์ (Clipping Layer)

หมายถึงการทำให้เลเยอร์หนึ่งมีผลกับอีกเลเยอร์หนึ่งเท่านั้น ไม่ไปกระทบเลเยอร์อื่นซึ่งอยู่ถัดลงไป อ่านแล้วคงจะ งง ลองดูภาพด้านล่างนะครับ จากภาพจะเห็นเลเยอร์ Wood Gain ซึ่งเป็นลายไม้ ผมต้องการให้ลายไม้นี้มีผลกับกรอบภาพซึ่งเป็นเลเยอร์ Frame ที่อยู่ถัดลงไปด้านล่างเท่านั้น ผมจึงใช้การ Clipping ซึ่งจะเห็นลูกศรอยู่ที่ด้านหน้านของเลเยอร์ Wood Gain การทำเช่นนี้ จะทำให้ได้กรอบภาพที่มีลายไม้สวยงามขึ้นมาแทนกรอบสีแดงเหลือง ในเลเยอร์ Frame
การทำ Clipping โดยการใช้คีย์ลัด ให้กดปุ่ม Alt แล้ววางเม้าส์ไว้ระหว่างทั้งสองเลเยอร์ จากนั้นคลิก หรือถ้าจะใช้คำสั่งโปรแกรมเมนู Layer เลือก Create Clipping Mask (คีย์ลัด Alt + Ctrl + G) ถ้าต้องการยกเลิกก็เพียงแค่ทำซ้ำวิธีเดิม โปรแกรมเมนู Layer เลือก Release Clipping Mask หรือ กดปุ่ม Alt แล้วคลิกเม้าส์ที่เดิมอีกครั้ง
 การเปิดพื้นที่การใช้งาน การนำภาพเข้าใช้งาน และการบันทึกงาน
         การเปิดพื้นที่การใช้งานใหม่
         1. ไปที่ Application menu เลือก File > New
อง Name คือการกำหนดชื่อของชิ้นงาน
ช่อง Preset คือ ชนิดของงานต่างๆ ที่กำหนดไว้ให้แล้ว มีให้เลือกมากมาย เช่น Web , Photo ,U.S.paper , international paper
ช่อง size จะสัมพันธ์กับช่อง Preset คือ ขนาดของงานแต่ละชนิด เช่น ค่า Preset เป็น International paper ช่อง Size ก็จะมีตัวเลือก คือ A4 , A3 , A2 ,A1 และอื่นๆ
ช่อง width คือขนาดความกว้างของชิ้นงาน หากต้องการกำหนดเอง มีหน่วนให้เลือก 7 ชนิด
ช่อง Hight คือขนาดความสูงของชิ้นงาน
ช่อง Resolution คือ ความละเอียดของงาน มีหน่วยเป็น Pixelต่อนิ้ว และ Pixel ต่อเซนติเมตร
ช่อง Color mode คือชนิดของพื้นที่สีในการทำงาน มีให้เลือกหลากหลาย เช่น RGB , CMYK และมีค่าความละเอียดให้เลือกเป็น bit
ช่อง Background Contents คือเลือกชนิดของ พื้นหลังงาน มี 3 แบบ คือ แบบขาว แบบสี และแบบโปร่งใส
          เมื่อทำการกำหนดขนาดของงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คลิปปุ่ม OK เพื่อทำการเปิดพื้นที่การทำงานดังตัวอย่างภาพ เปิดพื้นที่งานขนาด A4 พื้นหลัง สีขาว
การนำภาพเข้าใช้งาน
      หากเรามีภาพที่ต้องการเปิดเข้าใช้งานในโปรแกรม ในทำการ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
       ไปที่ File > open เลือก Floder ที่มีรูปที่เราต้องการ เลือกรูปนั้นแล้วกด Open
การบันทึกงาน
1. ไปที่ File > Save as จะปรากฎหน้าต่างช่อง File name คือให้เราตั้งชื่องานช่อง Format คือ การบันทึกไฟล์งานประเภทต่างๆ เช่น PSD , JPEG , TIFF และอื่นๆ เมื่อเลือกเสร็จเรียบร้อยแล้ว กด Save ก็จะทำการบันทึกสำเร็จ
ข้อมูลอ้างอิง

http://teacherjaray.blogspot.com/2014/05/2-1.html

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Trick เล็ก ๆเกี่ยวกับหนังสือราชการ

งานสารบรรณ ปัจจุบันงานสารบรรณมีระเบียบที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ ได้แก่ ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าาด้วย งานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และเรียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นการเพิ่มเติม คํานิยามเกี่ยวกับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์และคําว่าระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ในที่นี้คงจะกล่าวเฉพาะสิ่งที่ จําเป็นและเพื่อประโยชน์ในการใช้งาน ความสําคัญและประโยชน์ของการเขียนหนังสือ
1. เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร ระหว่างผู้ส่ง และผู้รับหนังสือ
2. สามารถสื่อความหมายได้ถูกต้อง ตรงประเด็น และเข้าใจตรงกัน
3. ประหยัดเวลา ในการตีความ ไม่ต้องสอบถามหรือเขียนใหม่ นํากลับมาอ่านทบทวน ทาความเข้าใจได้หลายครั้งเท่าที่ต้องการ
4. สามารถเก็บไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบได้
5. หรือใช้เป็นตัวอย่างสําหรับการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่
6. เป็นภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร
ความหมายของหนังสือ หนังสือราชการ และหนังสือออโต้ตอบ หนังสือหมายความว่า เอกสารต่างๆ ที่ทางราชการจัดทำขึ้น รวมทั้งเอกสารที่บุคคลภายนอก ส่งมายังหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่รับไว้ถือว่าเป็นหนังสือราชการด้วย หนังสือราชการหมายความว่า เอกสารที่เป็นหลักฐานทางราชการ ได้แก่
1. หนังสือที่มีไปมาระหว่างส่วนราชการ
2. หนังสือที่ส่วนราชการมี ไปถึงส่วนราชการอื่นใด ที่ไม่ใช่ส่วนราชการ หรือที่มีไปถึงบุคคลภายนอก
          3. หนังสือที่สวนราชการอื่นใด ที่ไมใช่ ส่วนราชการ หรือบุคคลภายนอกมีมาถึงส่วนราชการ
4. เอกสารที่ทางราชการจัดทําขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานทางราชการ
5. เอกสารที่ทางราชการจัดทําขึ้นตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ
6. ข้อมูลข่าวสาร หรือหนังสือได้รับจากระบบสารบรรณอิเล็กทรอนกสิ ์
หนังสือโต้ตอบ หมายความว่า หนังสือที่ส่วนราชการ หน่วยงาน หรือบุคคลภายนอก มีถึงกัน หรือมีการ โต้ตอบไปมาระหว่างกัน
 ความสําคัญของงานสารบรรณ  งานสารบรรณหมายความว่า เป็นงานที่เกี่ยวกับการบริหารงานเอกสาร เริ่มตั้งแต่การจัดทำ การรับ การส่ง การเก็บรักษา การยืม จนถึงการทําลาย แต่ในทางปฏิบัติแล้วจะเริ่มตั้งแต่การคิด อ่าน ร่าง เขียน แต่ง พิมพ์จัดทำสำเนา ส่ง รับ บันทึก จดรายงานการประชุม สรุป ย่อเรื่อง เสนอ สงสั่งการ ตอบ ทำรหัส เก็บ ค้นหา ติดตาม จนถึงการทําลายด้วย
ความหมายของคําว่า ส่วนราชการส่วนราชการหมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม สํานักงาน หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐทั้งในการ บริหารส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รวมถึงคณะกรรมการด้วย -2- ชั้นความเร็ว และชั้นความลับ ชั้นความเร็วมี 3 ชั้น ด่วนที่สุด ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติทันทีที่ได้รับหนังสือ ด่วนมาก ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติโดยเร็ว ด่วน ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติเร็วกว่าปกติ ชั้นชั้นความลับมี 3 ชั้น ลับที่สุด ลับมาก (ตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2548)
          ความหมายของการจัดทําสําเนา สําเนา คือเอกสารที่จัดทําขึ้นเหมือนต้นฉบับ ไม่ว่าจะทําจากต้นฉบับ หรือถ่ายจากสําเนาอีกชั้นหนึ่ง หรือพิมพ์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์เหมือนต้นฉบับก็ได้แต่จะต้องประทับตราว่า สําเนาคู่ฉบับหรือ สําเนา” “สําเนากระทําได้ 2 แบบ คือ สําเนาเป็นสําเนาที่ส่วนราชการจัดทําขึ้น อาจทําขึ้นด้วย การถ่าย คัดอัดสำเนา หรือด้วยวิธีอื่นๆ แต่สําเนานี้จะต้องมีผู้รับรองสําเนา คําว่า สําเนาถูกต้องโดยให้เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไปหรือเมื่อเทียบเท่า ลงลายมือ ชื่อรับรองตัวบรรจง ตําแหน่ง วัน เดือน ปีที่รับรอง โดยปกติให้มีคําว่า สำเนาไว้ที่กึ่งกลางหน้าเหนือบรรทัดแรกของสําเนา หนังสือด้วย สำเนาคู่ฉบับคือสําเนาที่จัดทําพร้อมกับต้นฉบับ และเหมือนต้นฉบับ มีผลงลายมือชื่อหรือลายมือชื่อย่อไว้ และให้ผู้ร่าง/พิมพ์/ตรวจ ลงลายมือย่อไว้ข้างท้ายขอบล่างด้านขวา ของหนังสือ

ชนิดของหนังสือราชการ มี 6 ชนิด 1. หนังสือภายนอก 2. หนังสือภายใน 3. หนังสือประทับตรา 4. หนังสือสั่งการ เช่น คำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ 5. หนังสือประชาสัมพันธ์ เช่น ประกาศ แถลงการณ์ข่าว 6. หนังสือที่เจาหน้าที่จัดทําขึ้นหรือรับไว้เป็นหลักฐานในราชการ ความแตกตางของหนังงสือภายใน ภายนอก บันทึก หนังสือภายนอก หนังสือภายใน บนทึก 1. ติดต่อระหว่างกระทรวง หรือบุคคลภายนอก 2. ผู้ลงนามเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย 3. ใช้รูปแบบหนังสือภายนอก กระดาษครุฑมีเรื่อง เรียน อ้างถึงสิ่งที่ส่งมาด้วย 4. เป็นพิธีการเต็มรูปแบบ ออกเลขที่ทุกครั้ง 5.ต้องพิมพ์ให้เรียบร้อย 6.มีสําเนาคู่ฉบับ และสําเนาครบถ้วน 1.ติดต่อระหว่างกรม หรือเทียบเท่าในสังกัดกระทรวง เดียวกัน 2.ผู้ลงนามเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หรือผู้ที่ ได้รับมอบหมาย 3. ใช้รูปแบบหนังสือภายใน กระดาษบันทึกข้อความมีเฉพาะเรื่อง เรียน 4. เป็นทางการ ออกเลขที่แต่เป็นพิธีการน้อยกว่า หนังสือภายนอก 5. ต้องพิมพ์ให้เรียบร้อย 6. มีสําเนาคู่ฉบับและสําเนา 1. ติดต่อภายในกรมเดียวกัน 2. หัวหน้าส่วนราชการ หรือเจ้าหน้าที่สามารถลงนามได้ 3. ใช้กระดาษบันทึกข้อความ หรือกระดาษอื่นได้จะมี ชื่อเรื่อง หรือไม่มีก็ได้ 4. เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้ออกเลขที่ ภายใน หรือไม่มีเลขที่ก็ได้ 5. พิมพ์หรือเขียนด้วยลายมือก็ได้ 6.อาจไม่มีสําเนาก็ได

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.km.moc.go.th/download/doc/%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87.pdf

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Office 365

Office 365

Office 365 "Office 365" อ้างอิงแผนการสมัครใช้งานที่มีการเข้าถึงแอปพลิเคชัน Office รวมถึงบริการด้านประสิทธิภาพการทำงานอื่นๆ ที่เปิดใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต (บริการ Cloud) เช่น การประชุมทางเว็บของ Skype for Business และอีเมลที่โฮสต์สำหรับธุรกิจของ Exchange Online และที่เก็บข้อมูลออนไลน์เพิ่มเติมด้วย OneDrive และนาทีสำหรับโทรทั่วโลกของ Skype ภายในบ้าน
แผน Office 365 จำนวนมากยังมีแอปพลิเคชัน Office เวอร์ชันบนเดสก์ท็อปล่าสุดที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์หลากหลายชนิด แอปพลิเคชันที่ติดตั้งโดยสมบูรณ์ ได้แก่ Word, Excel, PowerPoint, OneNote, Outlook, Publisher และ Access (Publisher และ Access มีให้ใช้งานบนพีซีเท่านั้น) และคุณสามารถติดตั้งแอปเหล่านั้นได้บนอุปกรณ์หลายชนิด รวมถึงพีซีและ Mac เมื่อคุณมีการสมัครใช้งาน Office 365 ที่ใช้งานอยู่ที่มี Office เวอร์ชันบนเดสก์ท็อป คุณจะมีแอปพลิเคชัน Office เวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
แผน Office 365 ที่เป็นแบบออนไลน์เท่านั้นเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับความต้องการทางธุรกิจบางอย่าง และเข้ากันได้กับเวอร์ชันบนเดสก์ท็อปของ Office, Office 2010, Office 2007 (โดยมีฟังก์ชันการทำงานที่จำกัดเล็กน้อย), Office 2011 for Mac และ Office 2008 for Mac ซึ่งไม่รวมแผน Exchange Online Kiosk หรือ Office 365 Enterprise K1 แผน Office 365 ทั้งหมดมีการชำระเงินตามเกณฑ์การสมัครใช้งาน รายเดือน หรือรายปี
Microsoft Office "Microsoft Office" คือชื่อที่เรายังคงใช้สำหรับซอฟต์แวร์ด้านประสิทธิภาพการทำงานที่คุณคุ้นเคย ชุดโปรแกรม Office มีให้ใช้งานแบบซื้อครั้งเดียวโดยมีแอปพลิเคชัน เช่น Word, Excel และ PowerPoint ซึ่งสามารถติดตั้งได้บนพีซีหรือ Mac 1 เครื่องเท่านั้น แอปพลิเคชันจะไม่ได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติ เมื่อต้องการรับเวอร์ชันล่าสุด คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ได้อีกครั้งเมื่อมีเวอร์ชันใหม่พร้อมใช้งาน Office เวอร์ชันล่าสุดสำหรับการซื้อแบบครั้งเดียวคือ Office 2013 สำหรับ Windows และ Office 2011 for Mac ชุดโปรแกรมเหล่านี้ไม่มีบริการในระบบ Cloud ที่มีอยู่ใน Office 365 ทั้งหมดนี้ต้องใช้ร่วมกับอินเตอร์เน็ต และOffice 365 ใช้ได้ดีที่สุดกับเวอร์ชันล่าสุดของ Office, Office 2010 และ Office 2011 for Mac นอกจากนี้ Office 365 ยังใช้ได้กับ Office 2007 แต่มีฟังก์ชันการทำงานที่จำกัดบ้างเล็กน้อย
คลาวด์ คืออะไร
"คลาวด์" คือบริการระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานบนเว็บซึ่งโฮสต์อยู่ภายนอกองค์กรของคุณ เมื่อคุณใช้บริการที่ใช้ระบบ คลาวด์ โครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ของคุณจะอยู่ภายนอกอาคาร (นอกสถานที่) และจะดูแลโดยบุคคลอื่น (โฮสต์) แทนที่จะอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ที่บ้านหรือธุรกิจของคุณ (ในสถานที่) ที่คุณดูแลรักษาเอง สำหรับ Office 365 ที่จัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และซอฟต์แวร์จะติดตั้งและจัดการบนเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์จากระยะไกล บริการหลายอย่างที่คุณใช้ทุกวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบ คลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นบริการอีเมลบนเว็บ ไปจนถึงบริการธนาคารทางอุปกรณ์เคลื่อนที่ และที่เก็บรูปถ่ายออนไลน์ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานนี้อยู่บนระบบออนไลน์หรือ ใน คลาวด์คุณจึงสามารถเข้าถึงได้จากแทบทุกที่ จากพีซี, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
Office 365 รองรับผู้ใช้ได้กี่คน
Office 365 นั้นขยายขีดความสามารถได้สูงและสามารถสนับสนุนได้ทุกอย่างตั้งแต่ธุรกิจของบุคคลเดียวไปจนถึงบริษัทต่างๆ ที่มีผู้ใช้หลายหมื่นราย:
แผน Office 365 Business เหมาะสำหรับบริษัทที่มีผู้ใช้ตั้งแต่หนึ่งถึง 300 ราย
แผน Office 365 Enterprise เหมาะสำหรับองค์กรที่มีขนาดแตกต่างกัน ตั้งแต่มีพนักงานเพียงคนเดียวไปจนถึงมีผู้ใช้มากกว่า 50,000 คน
การเริ่มต้นใช้งาน
โปรแกรมติดตั้งสำหรับ Office บนเดสก์ท็อป มีประโยชน์มากมาย ซึ่งรวมถึงสิ่งต่อไปนี้
-          การตรวจหาการอัปเดตที่จำเป็นโดยอัตโนมัติ
-          การติดตั้งการอัปเดตและองค์ประกอบเมื่อได้รับการอนุมัติหรือจากบรรทัดคำสั่งโดยไม่ต้องมีการโต้ตอบ
-          การกำหนดค่า Outlook และ Skype for Business สำหรับใช้งานร่วมกับ Microsoft Office 365 โดยอัตโนมัติ
-          การถอนการติดตั้งโปรแกรมเองจากคอมพิวเตอร์ไคลเอ็นต์หลังจากการเรียกใช้งาน
-          คุณสามารถค้นหาและติดตั้งโปรแกรมติดตั้งสำหรับ Office บนเดสก์ท็อปได้ในศูนย์การจัดการ Office 365 ของคุณ
-          ถ้าแผนของคุณรวมถึงการสมัครใช้งาน Office คุณสามารถติดตั้งโปรแกรมได้โดยตรงจากศูนย์การจัดการ Office 365


ข้อมูลอ้างอิง : https://products.office.com/th-th/business/microsoft-office-365-frequently-asked-questions